ติดแบล็คลิสแก้อย่างไร ? อัปเดต 2566

ติดแบล็คลิสแก้อย่างไร

ติดแบล็คลิส หลายคนฟังแล้วอาจดูน่ากลัวแต่ในความเป็นจริงแล้ว หลายๆคนติดแบ็คลิส ซึ่งเกิดจากการการที่เราผิดนัดชำระหนี้กับทางธนาคาร ซึ่งส่งผลต่อการทำธุรกรรมในครั้งต่อไป ซึ่ง ติดแบล็คลิส นอกจากเสียโอกาสแล้วยังเสียเครดิตอีกด้วย ติดแบล็คลิสแก้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ

ติดแบล็คลิส เกิดจากอะไร ?

แบล็คลิส ไม่มีอยู่ในรายงาน ข้อมูลเครดิต แต่มีความหมายว่า บุคคลนั้นมีประวัติการชำระเงินที่ไม่เป็นไปตามปกติ เลยระยะเวลาที่กำหนด และค้างจ่ายนานหลายงวด  ส่งผลให้เมื่อมีการขอสินเชื่อใหม่ แล้วไม่ได้รับอนุมัตินั้นมาจาก สถาบันการเงินเข้าไปตรวจสอบประวัติการชำระหนี้จากเครดิตบูโรภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าสมควรอนุมัติการปล่อยสินเชื่อหรือทำบัตรเครดิตหรือไม่ หากในประวัติพบว่ามีการผิดนัดชำระอยู่บ่อยครั้ง นั่นแสดงให้เห็นถึงการขาดความน่าเชื่อถือ มีโอกาสสูงมากหากปล่อยสินเชื่อไปแล้วจะไม่ได้คืน ซึ่งหมายความว่าคุณนั้น ติดแบล็คลิส อยู่นั้นเอง

ทำไมเราถึงไม่ควรทำตัวให้ติดแบล็คลิส

อัปเดต 2566 ในปี 2023 คนที่มีรายชื่อผู้ติดแบล็คลิสจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้อีกเลย ไม่ว่าจะเป็นกู้ซื้อบ้าน กู้สินเชื่อเพื่อทำธุรกิจ หรือกู้สินเชื่อส่วนบุคคล สำหรับใครที่อยากรู้ว่าแบล็คลิสเช็คอย่างไร โดยเราสามารถเช็คแบล็คลิสออนไลน์ฟรีได้ผ่านแอพธนาคารชั้นนำทั่วประเทศ โดยการขอดูเครดิตทางการเงินย้อนหลังหรือเช็คข้อมูลแบล็คลิสต์ยังสามารถตรวจสอบได้หลายเดือนอีกด้วย สำหรับคนที่อยากเข้าใจรายละเอียดให้มากขึ้นนอกจากรู้เพียงแค่แบล็คลิสต์นั้นว่าคืออะไร ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งเป็นช่องทางออนไลน์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแบล็คลิสไว้ทั้งหมด

นอกจากนี้หากใครต้องการเช็คแบล็คลิส โดยไม่ผ่านธนาคารสามารถทำได้ดังนี้

บุคคลธรรมดา มีค่าธรรมเนียม 100 บาท/ฉบับ/คน/ครั้ง สามารถตรวจ แบล็คลิส เครดิตบูโรได้ที่ 

  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สาขาธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ สามารถรับรายงานได้เลยภายใน 15 นาที 
  • ยื่นคำขอผ่านเคาน์เตอร์ ธนาคารธนชาต, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ได้ทุกสาขา โดยจะจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน
  • ยื่นคำขอผ่านตู้เบิกเงินสด (ATM) ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ และจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน 
  • ยื่นคำขอผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Banking) ของธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยจะจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน 
  • ยื่นคำขอผ่านช่องทางออนไลน์ (Internet Banking) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัทฯ จะจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน 

นิติบุคคล มีค่าธรรมเนียม 200 บาท/ฉบับ/ครั้ง สามารถตรวจสอบ แบล็คลิส เครดิตบูโร ได้ที่

  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สาขาธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ รับรายงานภายใน 15 นาที และผ่านทางไปรษณีย์ โดยจะจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์ แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารครบถ้วน

เช็ค แบล็คลิสต์ เครดิตบูโร มีผลเสียไหม

การติด แบล็คลิส เครดิตบูโร หมายถึง การติดแบล็คลิสต์ต่าง ๆ ทำให้การกู้ขอสินเชื่อ หรือทำธุรกรรมด้านการเงินใด ๆ ลำบาก และถูกปฎิเสธได้ง่าย แต่แท้จริงแล้ว เครดิตบูโรเป็นเพียงบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติที่คอยเก็บรวบรวมข้อมูลด้านการเงินตามความจริงเท่านั้น หากถามว่า เครดิตบูโร เช็คอะไรบ้าง จะเน้นไปที่ข้อมูลธุรกรรมด้านการเงิน และไม่มีหน้าที่ขึ้นแบล็คลิสต์แต่อย่างใด

ส่วนสาเหตุที่การกู้ยืมขอสินเชื่อ หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ถูกปฎิเสธ อาจมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการ ที่ทางสถาบันการเงินมองว่ามีความเสี่ยง เช่น รายได้, อาชีพ, การออมเงิน, การลงทุน ไปจนถึงบุคคลหรือหลักทรัพย์ที่เรานำมาค้ำประกัน เป็นต้น

ติดแบล็คลิสแก้อย่างไร ? อัปเดต 2566

  1. พบสถาบันทางการเงิน

เข้าเจรจากับสถาบันทางการเงินเจ้าหนี้ ขอผ่อนระยะเวลาชำระหนี้ออกไป เพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ และหาทางทำสัญญาเพิ่มเติม ตลอดจนปรับปรุงโครงสร้างหนี้

  1. ชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด

กลับมาชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพื่อรักษาเครดิตที่ดีเอาไว้ พร้อมเก็บเอกสารการชำระหนี้ทุกชิ้นเพื่อเป็นหลักฐาน และควรเก็บหลักฐานที่เราจ่ายค่างวด เพราะหลักฐานสามารถนำไปยื่นขอสินเชื่อตัวใหม่หลังจากที่พ้นแบล็คลิสต์ไปแล้ว

  1. เช็คข้อมูล

เมื่อชำระจนครบแล้ว ให้ตรวจสอบข้อมูล ด้วยตัวคุณเองที่บริษัทข้อมูลแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร เพื่อเช็คว่าสถาบันการเงินเจ้าหนี้ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้หรือยัง เพราะข้อมูลยังอยู่กับเครดิตบูโรอยู่ อย่างน้อย 3 ปี โดยระยะเวลาที่เครดิตบูโรจะลบข้อมูล ระยะเวลาจะอยู่ประมาณ 36 เดือน หรือ 3 ปี เป็นต้นไป

  1. รักษาเครดิตเอาไว้

เมื่อเคลียร์ปัญหาติดแบล็คลิสต์เรียบร้อย จนกระทั่งคุณสามารถทำบัตรเครดิตใหม่ได้ อย่าลืม ชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาติดแบล็คลิสต์ ติดเครดิตบูโรอีก ไม่อย่างนั้นเครดิตของคุณก็เสียไปด้วยเช่นกัน

แก้การ ติดแบล็คลิสต์ แล้วยื่นเอกสารกู้ได้เลยไหม ?

จะต้องพิจรณาขึ้นอยู่กับหนี้นั่นเป็นหนี้รูปแบบไหน เช่น ค้างจ่ายหลายงวด นานเป็นปี จนมีการฟ้องร้อง ถ้าแบบนี้ต้องเคลียร์หนี้ทุกอย่างให้จบ ซึ่งข้อมูลของคุณก็ยังอยู่ในระบบอีก 3 ปี (เครดิตบูโรเก็บข้อมูลตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด)

โดยภายใน 3 ปีนี้ก็จะยังไม่สามารถกู้ได้ แต่หลังจากนั้นข้อมูลการค้างชำระของคุณจึงจะหายไป จึงจะสามารถกู้ซื้อบ้านได้ ซึ่งระหว่างนี้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของประวัติทางการเงินให้ดูดีขึ้นและเพื่อเพิ่มโอกาสในการกู้ ควรปฏิบัติตามนี้

  1. เดินบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ มีรายการเงินเข้าออกเป็นประจำ
  2. ปิดบัญชีบัตรเครดิตต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ เพื่อให้เห็นถึงวินัยในการใช้จ่าย และใช้จ่ายเฉพาะสิ่งจำเป็น
  3. มีเงินเก็บภายในบัญชีมากระดับหนึ่ง
  4. รักษาประวัติการผ่อนชำระรายการอื่นๆ ที่ยังมีอยู่ให้สม่ำเสมอ

คนที่จะซื้อคอนโดต้องรู้ อ่านบทความ ซื้อคอนโด ติดแบล็คลิสต์ แก้อย่างไร ? ได้ที่นี่

เช็คเครดิตบูโรได้ที่นี่